รถจด 32 กับ จดประกอบ มันคืออะไร
การนำเข้าแบบ32 จะต้องเป็นรถใหม่เท่านั้นครับพวกบริษัทเกรย์นำเข้ามาขายเป็นรถใหม่ จะสามารถนำเข้าแบบ32ได้ครับ
ปล. แล้วยังมี รถนำเข้าจากนักเรียนต่างประเทศ ซึ่งจะจดแบบนี้คับ
จดประกอบแบบถูกต้อง
รถจดประกอบ คือ รถมือสอง ที่นำเข้ามา เป็นชิ้นส่วนรถ แยกเครื่องกับตัวรถออกจากกัน จะถอดมากถอดน้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่เจ้า แต่ต้องสำแดงให้ ศุลกากรเห็นว่า มันคือ ชิ้นส่วนไม่ใช่รถทั้งคัน และ ตัวรถนั่นต้องห้ามหั่นครึ่ง คือ ต้องนำโครงตัวรถมาทั้งคัน ซึ่งตรงนี้ จะเสียภาษีศุลกากรกรชิ้นส่วนตัวถัง 30% (แต่ถ้าหั่นครึ่ง เหมือนพวกทำอะไหล่ จะเสียแค่ 3% แต่ใช้ทำได้แค่เป็นอะไหล่เท่านั้น จะเอามาประกอบเป็นคันไม่ได้ เหมือนพวกไม่ตัด)
โดยจะต้องมีเอกสาร อินวอยซ์ เสียภาษีศุลกากร แสดงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และ ตัวถัง ถึงจะประกอบเป็นคันได้
ทีนี้พอได้มาแล้ว ก็ต้องมีโรงงานประกอบที่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต ประกอบออกมาเป็นคัน (แต่ก่อนไม่ค่อยมีรถจดประกอบ เพราะว่า ไม่มีโรงงานประกอบ กรมสรรรพสามิตเพิ่งมาออกใบอนุญาตให้ เลยคึกคักกันตอนนี้ มีนับสิบเจ้า ประกอบเสร็จเป็นคันก็ต้องเสียสรรพสามิตเหมือนรถใหม่ป้ายแดง โดยการประเมิน จากกรมสรรพสามิต ว่า รุ่นนี้ เครื่องยนต์ขนาดนี้ ต้องเสียเท่าไร (รถเล็กไม่เกิน 2800 เสีย 30% จากราคาประเมิน รถใหญ่เกินกว่านั้น เสีย 50% ของราคาประเมิน อันนี้ คือเสียถูกต้อง
กรณีควรระวัง
กรณีลักไก่ ไม่เสียตรงนี้ แต่เอาไป ให้สรรพสามิตต่างจังหวัดจับปรับ สามเท่า แล้วใช้ใบเสร็จพร้อมค่าปรับนี้ มาจดทะเบียน ซึ่งจดได้
ยกตัวอย่าง รถ คันหนึ่ง พิกัดภาษี 30% เค้าตีราคาประเมินรุ่นนี้ไว้ 3 ล้าน ก็ต้องเสีย 9 แสนถูกต้อง แต่ ว่า แอบเอาไปให้จับแล้ว ตีว่าภาษี ว่า 1 แสน ปรับรวมสามเท่าก็เสีย ไป 3 แสน เอามาจดทะเบียนได้จริง แต่ถ้าตรวจพบภายหลัง โดนเรียกย้อนหลังได้ คราวนี้ เจอสามเท่า ของ เก้าแสน เป็น 2.7 ล้านคับ อันนี้น่ากลัว
ดังนั้น ต้อง เช็คให้แน่ ว่าเสียถูกต้อง จากกรมจริงๆ ดูใบเสร็จด้วย (ระวังใบเสร็จปลอมด้วย อิๆ)
ส่วนเรื่องจดแก๊ส หรือ สมอ.เป็นอีกเรื่องไม่เกี่ยวกับสรรพสามิต ซึ่งรถทุกคัน ต้องเสียภาษีนั้น อยู่แล้ว พิกัดเดียวกัน
แต่ว่า รถจดประกอบ (ความจริงรถใหม่ด้วย) ทุกคันต้อง ส่งตรวจ สมอ.หรือ มาตรฐานอุตสาหกรรม ) รถใหม่ ส่งแค่รุ่นล่ะคัน
รถมือสอง หรือรถจดประกอบ ต้องส่งทุกคัน ส่งไป ถ้าตรวจไม่ผ่านเสียค่าตรวจหลายหมื่นฟรี ๆ ดังนั้น จึงมักมี บริษัทรับจัดการเดินเรื่องให้ เสียกันราวๆสองถึงสามแสนแล้วแต่รถ
บางคนไม่อยากเสียตรงนี้ก็เลี่ยงไปติดแก๊ส แล้วค่อยเอาไปจดทะเบียน เนื่องจากทุกวันนี้ สมอ.ไม่มีเครื่องตรวจรถใช้แก๊ส จึงมีการอนุโลมให้ รถติดแก๊สไม่ต้องตรวจสมอ.จดทะเบียนได้เลย ก็เลยเลี่ยงกัน
บางคนติดแก๊สไปไม่นาน ก็แจ้งยกเลิก มาใช้เบนซินต่อ แล้ว บางคนแอบแจ้งเล่มหาย ขอทำใหม่ ก็ได้เล่มใหม่ที่ไม่มีหลักฐาน ว่าจดแก๊ส (แต่ ต้นขั้วที่ขนส่งจะยังมี)
หนักสุด คือ บางคน ไม่ได้ติดแก๊สด้วยซ้ำ แต่ อาศัยเส้นจดเป็นติดแก๊ส แล้ว พอจดทะเบียน มาซักพัก ก็แจ้งยกเลิก อันนี้ คือ อันที่ผิดกฎหมายถ้าตรวจสอบได้ เพราะวาไม่ได้ติดแก๊สจริง
เรืองนี้ ซับซ้อนหน่อย ถ้าจะเล่น ต้องตามให้ทันเค้า ครับ
ข้อดีของรถจดประกอบหลักที่ผมเห็นคือ เรื่องราคาครับ
ส่วนข้อเสีย ก็คงต้องระวังกับตรวจสอบเอกสารการนำเข้า เสียภาษี ให้ดีอ่ะคับ เพราะถ้าเจอจุดไหน แสดงเท็จรับประกันรถคันสวยของคุณคงส่งไปประมูล ในครั้งต่อไปคับ
ปล.บทความนี้ไม่มีเจตนาจะพาดพิง หรือ ทำลายธุรกิจใคร อยากแค่ให้เพื่อนๆ พอดีความรู้กันครับ
ปล. แล้วยังมี รถนำเข้าจากนักเรียนต่างประเทศ ซึ่งจะจดแบบนี้คับ
จดประกอบแบบถูกต้อง
รถจดประกอบ คือ รถมือสอง ที่นำเข้ามา เป็นชิ้นส่วนรถ แยกเครื่องกับตัวรถออกจากกัน จะถอดมากถอดน้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่เจ้า แต่ต้องสำแดงให้ ศุลกากรเห็นว่า มันคือ ชิ้นส่วนไม่ใช่รถทั้งคัน และ ตัวรถนั่นต้องห้ามหั่นครึ่ง คือ ต้องนำโครงตัวรถมาทั้งคัน ซึ่งตรงนี้ จะเสียภาษีศุลกากรกรชิ้นส่วนตัวถัง 30% (แต่ถ้าหั่นครึ่ง เหมือนพวกทำอะไหล่ จะเสียแค่ 3% แต่ใช้ทำได้แค่เป็นอะไหล่เท่านั้น จะเอามาประกอบเป็นคันไม่ได้ เหมือนพวกไม่ตัด)
โดยจะต้องมีเอกสาร อินวอยซ์ เสียภาษีศุลกากร แสดงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และ ตัวถัง ถึงจะประกอบเป็นคันได้
ทีนี้พอได้มาแล้ว ก็ต้องมีโรงงานประกอบที่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต ประกอบออกมาเป็นคัน (แต่ก่อนไม่ค่อยมีรถจดประกอบ เพราะว่า ไม่มีโรงงานประกอบ กรมสรรรพสามิตเพิ่งมาออกใบอนุญาตให้ เลยคึกคักกันตอนนี้ มีนับสิบเจ้า ประกอบเสร็จเป็นคันก็ต้องเสียสรรพสามิตเหมือนรถใหม่ป้ายแดง โดยการประเมิน จากกรมสรรพสามิต ว่า รุ่นนี้ เครื่องยนต์ขนาดนี้ ต้องเสียเท่าไร (รถเล็กไม่เกิน 2800 เสีย 30% จากราคาประเมิน รถใหญ่เกินกว่านั้น เสีย 50% ของราคาประเมิน อันนี้ คือเสียถูกต้อง
กรณีควรระวัง
กรณีลักไก่ ไม่เสียตรงนี้ แต่เอาไป ให้สรรพสามิตต่างจังหวัดจับปรับ สามเท่า แล้วใช้ใบเสร็จพร้อมค่าปรับนี้ มาจดทะเบียน ซึ่งจดได้
ยกตัวอย่าง รถ คันหนึ่ง พิกัดภาษี 30% เค้าตีราคาประเมินรุ่นนี้ไว้ 3 ล้าน ก็ต้องเสีย 9 แสนถูกต้อง แต่ ว่า แอบเอาไปให้จับแล้ว ตีว่าภาษี ว่า 1 แสน ปรับรวมสามเท่าก็เสีย ไป 3 แสน เอามาจดทะเบียนได้จริง แต่ถ้าตรวจพบภายหลัง โดนเรียกย้อนหลังได้ คราวนี้ เจอสามเท่า ของ เก้าแสน เป็น 2.7 ล้านคับ อันนี้น่ากลัว
ดังนั้น ต้อง เช็คให้แน่ ว่าเสียถูกต้อง จากกรมจริงๆ ดูใบเสร็จด้วย (ระวังใบเสร็จปลอมด้วย อิๆ)
ส่วนเรื่องจดแก๊ส หรือ สมอ.เป็นอีกเรื่องไม่เกี่ยวกับสรรพสามิต ซึ่งรถทุกคัน ต้องเสียภาษีนั้น อยู่แล้ว พิกัดเดียวกัน
แต่ว่า รถจดประกอบ (ความจริงรถใหม่ด้วย) ทุกคันต้อง ส่งตรวจ สมอ.หรือ มาตรฐานอุตสาหกรรม ) รถใหม่ ส่งแค่รุ่นล่ะคัน
รถมือสอง หรือรถจดประกอบ ต้องส่งทุกคัน ส่งไป ถ้าตรวจไม่ผ่านเสียค่าตรวจหลายหมื่นฟรี ๆ ดังนั้น จึงมักมี บริษัทรับจัดการเดินเรื่องให้ เสียกันราวๆสองถึงสามแสนแล้วแต่รถ
บางคนไม่อยากเสียตรงนี้ก็เลี่ยงไปติดแก๊ส แล้วค่อยเอาไปจดทะเบียน เนื่องจากทุกวันนี้ สมอ.ไม่มีเครื่องตรวจรถใช้แก๊ส จึงมีการอนุโลมให้ รถติดแก๊สไม่ต้องตรวจสมอ.จดทะเบียนได้เลย ก็เลยเลี่ยงกัน
บางคนติดแก๊สไปไม่นาน ก็แจ้งยกเลิก มาใช้เบนซินต่อ แล้ว บางคนแอบแจ้งเล่มหาย ขอทำใหม่ ก็ได้เล่มใหม่ที่ไม่มีหลักฐาน ว่าจดแก๊ส (แต่ ต้นขั้วที่ขนส่งจะยังมี)
หนักสุด คือ บางคน ไม่ได้ติดแก๊สด้วยซ้ำ แต่ อาศัยเส้นจดเป็นติดแก๊ส แล้ว พอจดทะเบียน มาซักพัก ก็แจ้งยกเลิก อันนี้ คือ อันที่ผิดกฎหมายถ้าตรวจสอบได้ เพราะวาไม่ได้ติดแก๊สจริง
เรืองนี้ ซับซ้อนหน่อย ถ้าจะเล่น ต้องตามให้ทันเค้า ครับ
ข้อดีของรถจดประกอบหลักที่ผมเห็นคือ เรื่องราคาครับ
ส่วนข้อเสีย ก็คงต้องระวังกับตรวจสอบเอกสารการนำเข้า เสียภาษี ให้ดีอ่ะคับ เพราะถ้าเจอจุดไหน แสดงเท็จรับประกันรถคันสวยของคุณคงส่งไปประมูล ในครั้งต่อไปคับ
ปล.บทความนี้ไม่มีเจตนาจะพาดพิง หรือ ทำลายธุรกิจใคร อยากแค่ให้เพื่อนๆ พอดีความรู้กันครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น